หนึ่งในไฮไลต์ของการประชุมเอเปคปีนี้ คือ การเปิดโอกาสทางการค้าและการลงทุนเสรี (Open) โดยผลักดัน “การเปิดเขตการค้าเสรีเอเชีย–แปซิฟิก (Free Trade Area of the Asia-Pacific หรือ FTAAP)” เพื่อส่งเสริมระบบการค้าพหุภาคี และสนับสนุนการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของภูมิภาค-ของโลก ด้วยการลดอุปสรรคและส่งเสริมการอำนวยความสะดวกทางการค้าสินค้า การค้าบริการ และการลงทุนระหว่างกัน โดยยึดแนวทางดำเนินงานที่สอดคล้องกับกฎเกณฑ์ขององค์การการค้าโลก (world Trade Organization: WTO)
ที่ผ่านมา เอเปคพยายามผลักดันประเด็นดังกล่าวมาโดยตลอด และในฐานะที่ไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมปีนี้ จึงเป็นโอกาสที่จะนำ FTAAP มาหารือใหม่ เพื่อให้ทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาควิชาการ นักธุรกิจ และประชาชนทั่วไป เกิดความเข้าใจ และรวมพลังกันขับเคลื่อนความร่วมมือทางเศรษฐกิจของกลุ่มเขตเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิกทั้ง 21 เขตเศรษฐกิจ ไปเป็น FTAAP ในอนาคต โดยตั้งเป้าหมายไว้ในปี พ.ศ. 2583 ซึ่งหากผลักดันได้สำเร็จ จะเป็นการอำนวยความสะดวก และช่วยขยายการค้าการลงทุนได้อย่างมาก เช่น การลดภาษีนำเข้าระหว่างกันเป็น 0% กฎระเบียบการค้าจะเป็นกฎระเบียบเดียวกัน มีการเปิดตลาดระหว่างกันทั้งในส่วนของสินค้าและบริการ รวมถึงส่งเสริมการลงทุนระหว่างกัน เป็นต้นคำพูดจาก ทดลองปั่นสล็อต
นอกจากนี้ จะเป็นเขตการค้าเสรีที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพราะทั้ง 21 เขตเศรษฐกิจ มีประชากรรวมกัน 2,900 ล้านคน คิดเป็น 38% ของโลก มี GDP รวมกัน 1,768 ล้านล้านบาท คิดเป็น 62% ของ GDP โลก ยิ่งไปกว่านั้น ไทยยังสามารถขยายมูลค่าการค้ากับสมาชิกเอเปคได้ 2 – 4 เท่า จากจำนวน 12.2 ล้านล้านบาท โดยเฉพาะสินค้าส่งออกสำคัญ เช่น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องจักร ยานยนต์ และสินค้าเกษตร ซึ่งจะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจได้อย่างรวดเร็วคำพูดจาก รวมสล็อตทดลองเล่น