คณะเสนาธิการร่วมของเกาหลีใต้ (JCS) เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 22.38 นาฬิกาของวันที่ 17 ธ.ค. ตามเวลาท้องถิ่น เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธลูกดังกล่าวไปยังทะเลตะวันออก และขีปนาวุธลูกดังกล่าวได้บินไปประมาณ 570 กิโลเมตร ก่อนที่จะตกลงมหาสมุทรในทะเลญี่ปุ่น
การปล่อยขีปนาวุธดังกล่าวของเกาหลีเหนือเกิดขึ้น หลังจากเกาหลีใต้ และสหรัฐฯ ได้ออกคำเตือนว่า เกาหลีเหนือกำลังเตรียมทดสอบยิงขีปนาวุธ ซึ่งหนึ่งในนั้นรวมถึงขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) ในเดือนนี้
เกาหลีใต้-ญี่ปุ่นส่งเครื่องบินขับไล่ สกัดเครื่องบินจีน-รัสเซีย
เกาหลีใต้ เตรียมเปิดรับแรงงานข้ามชาติไร้ฝีมือทุบสถิติ!
เกาหลีเหนือประกาศ! จะดำเนินการตอบโต้ หลังถูกสหรัฐฯ แทรกแซงดาวเทียม
ทั้งนี้คณะเสนาธิการร่วมของเกาหลีใต้ระบุว่า เกาหลีใต้ สหรัฐฯ และญี่ปุ่นได้แบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับขีปนาวุธของเกาหลีเหนืออย่างใกล้ชิด และการยิงทดสอบขีปนาวุธของเกาหลีเหนือครั้งนี้เกิดขึ้นเพียง 2 วัน หลังจากสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ได้ร่วมประชุมที่ปรึกษานิวเคลียร์ครั้งที่ 2 ในกรุงวอชิงตันเมื่อวันศุกร์ และมีการหารือในประเด็นเกี่ยวกับการป้องปรามทางนิวเคลียร์ และสถานการณ์ความขัดแย้งกับเกาหลีเหนือ
ขณะที่วันอาทิตย์ที่ผ่านมา โฆษกกระทรวงกลาโหมเกาหลีเหนือได้ตำหนิแผนการซ้อมรบประจำปีของเกาหลีใต้ และพันธมิตรที่เตรียมขยายการซ้อมรบที่สำคัญในปีหน้า รวมถึงการฝึกซ้อมรบทางนิวเคลียร์ด้วย
โฆษกกระทรวงกลาโหมเกาหลีเหนือเตือนว่า ความพยายามใดๆก็ตามที่เป็นการใช้กำลังติดอาวุธกับเกาหลีเหนือ จะต้องเผชิญกับการตอบโต้กลับด้วยมาตรการที่ร้ายแรง
การดำเนินกิจกรรมทดสอบขีปนาวุธของเกาหลีเหนือถือเป็นสิ่งต้องห้ามตามมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ แต่รัฐบาลเกาหลีเหนืออ้างว่า กิจกรรมดังกล่าวเป็นการป้องกันตนเอง
ขณะที่การยิงขีปนาวุธในครั้งนี้เกิดขึ้น ขณะที่รัฐบาลเกาหลีเหนือรำลึกวันครบรอบการเสียชีวิตของนายคิม จอง อิล อดีตผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ และเป็นบิดา ของคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือคนปัจจุบัน
เมื่อปีที่แล้ว เกาหลีเหนือได้ผ่านกฎหมายใหม่ที่อนุญาตให้มีการโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์เพื่อป้องกันตนเอง และประกาศจุดยืนของตัวเองในฐานะมหาอำนาจด้านนิวเคลียร์ที่ไม่สามารถย้อนกลับได้
นอกจากนี้เกาหลีเหนือย้ำว่าจะไม่มีวันล้มเลิกโครงการนิวเคลียร์ ซึ่งถือเป็นสิ่งจำเป็นต่อการอยู่รอดของประเทศ
ท่ามกลางความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลี ประเทศเพื่อนบ้านอย่างญี่ปุ่น ก็ได้รับผลกระทบตามไปด้วย เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาแหล่งข่าวของรัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า รัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมผ่านร่างงบประมาณประจำปี 2024 โดยร่างงบประมาณนี้จะมีการเพิ่มงบประมาณด้านกลาโหมเป็น 7.7 ล้านล้านเยน ซึ่งแตะระดับสูงสุดครั้งใหม่ของประเทศ และคาดการณ์ว่างบประมาณส่วนนี้จะถูกนำไปใช้ในการจัดหาขีปนาวุธพิสัยไกล และการพัฒนาเครื่องบินรบรุ่นต่อไป
ล่าสุดร่างงบประมาณดังกล่าวกำลังเตรียมการในขั้นสุดท้ายเพื่อจัดสรรเงินงบประมาณดังกล่าวให้กับกระทรวงกลาโหม และภาคส่วนต่างๆ และการเพิ่มงบกลาโหมครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการสะสมอาวุธที่เข้มข้นมากขึ้นของญี่ปุ่น
เบื้องต้นคาดการณ์ว่าร่างงบประมาณดังกล่าวจะได้รับอนุมัติในการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันศุกร์ที่จะถึงนี้
สำหรับญี่ปุ่นได้วางแผนเพิ่มการใช้จ่ายด้านกลาโหมเป็น 43 ล้านล้านเยน ในช่วง 5 ปี นับตั้งแต่ปีงบประมาณ 2023
ภาพจาก Anthony WALLACE / AFP
ความเห็นเอกฉันท์คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง! นิด้าโพลเผยผล ขึ้นเงินเดือนข้าราชการและค่าแรงขั้นต่ำ
อุตุฯ ประกาศเตือนอากาศหนาว อุณหภูมิลดสูงสุด 8 องศา